นวัตกรรม
หรือ นวกรรม มาจากคำว่า“นว”
กับ “กรรม”
ซึ่ง
นว หมายถึง ใหม่
และ
กรรม หมายถึง การกระทำ
เมื่อนำสองคำนี้มารวมกัน
เป็น นวกรรม หรือนวตกรรม หรือว่า นวัตกรรม ซึ่งเป็นคำที่ใช้ในปัจจุบัน และสามารถแปลตรงตามความหมายก็คือ
การกระทำใหม่ ๆ หรือการพัฒนาปรับปรุงหรือดัดแปลงจากสิ่งใดๆ
แล้วทำให้สิ่งนั้นมีประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีขึ้น
ทำให้เกิดประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานนั้นๆมากยิ่งขึ้น
“นวัตกรรม”
หมายถึงความคิด การปฏิบัติ หรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยมีใช้มาก่อน
หรือเป็นการพัฒนาดัดแปลงมาจากของเดิมที่มีอยู่แล้ว
ให้ทันสมัยและใช้ได้ผลดียิ่งขึ้น เมื่อนำ
นวัตกรรมมาใช้จะช่วยให้การทำงานนั้นได้ผลดีมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงกว่าเดิม
ทั้งยังช่วย ประหยัดเวลาและแรงงานได้ด้วย
นวัตกรรม หมายถึง การนำความคิดมาทำสิ่งประดิษฐ์ใหม่ขึ้นมา หรือ
การนำเอาของที่มีอยู่ก่อนแล้ว มาพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อการใช้งาน
ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นวัตกรรมแบ่งออกเป็น 3 ระยะ
ระยะที่
1. มีการประดิษฐ์คิดค้น
ระยะที่
2. มีการพัฒนา
ระยะที่
3. การนำเอาไปปฎิบัติ
หลักสำคัญในการพิจารณาว่าเป็นนวัตกรรม
โดย ชัยยงค์ พรหมวงศ์
ได้ให้เกณฑ์พิจารณาสิ่งที่ถือว่าเป็นนวัตกรรมไว้ดังนี้
1. จะต้องเป็นสิ่งใหม่ทั้งหมดหรือสิ่งใหม่บางส่วน
2. มีการนำวิธีการจัดระบบมาใช้
โดยพิจารณาองค์ประกอบทั้งส่วนข้อมูลที่ใส่เข้าไป กระบวนการและผลลัพธ์
ให้เหมาะสมก่อนที่จะทำการเปลี่ยนแปลง
3. มีการพิสูจน์ด้วยการวิจัย
หรืออยู่ระหว่างการวิจัยว่าจะช่วยให้การดำเนินงานบางอย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
4. ยังไม่เป็นส่วนหนึ่งของระบบงานในปัจจุบัน
หากกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบงานที่ดำเนินอยู่ในขณะนี้ ไม่ถือว่าเป็นนวัตกรรม
ประเภทของนวัตกรรม
-นวัตกรรมมี 2 ประเภท คือ
1. นวัตกรรมที่เป็นสิ่งใหม่ทั้งหมด
2. นวัต กรรมที่เป็นสิ่งใหม่บางส่วน อาจเป็นของเก่าที่ใช้ไม่ได้ผลในอดีต แต่นำมาปัดฝุ่นปรับปรุงใหม่หรือเป็นของปัจจุบันที่เราทำการปรับปรุงให้ดี
ขึ้น
นวัตกรรมการศึกษา
(Educational
Innovation )
นวัตกรรมการศึกษา หมายถึง
นวัตกรรมที่จะช่วยให้การศึกษา และการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
ผู้เรียนสามารถเกิดการเรียนรู้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิผลสูงกว่าเดิม
เกิดแรงจูงใจในการเรียนด้วยนวัตกรรมการศึกษา
เป้าหมายของเทคโนโลยีการศึกษา
- แนวคิดทางเทคโนโลยีทางการศึกษา
ต้องการให้ผู้เรียนมีโอกาสเรียนจากแหล่งความรู้ที่กว้างขวางออกไปอีก
แหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ครอบคลุมถึงเรื่องต่างๆ
- การเน้นการเรียนรู้แบบเอกัตบุคคล ถึงแม้นักเรียนจะล้นชั้น
และกระจัดกระจาย ยากแก่การจัดการศึกษาตามความแตกต่างระหว่างบุคคลได้
นักการศึกษาและนักจิตวิทยาได้พยายามคิด
- การใช้วิธีวิเคราะห์ระบบในการศึกษา การใช้วิธีระบบ
ในการปฏิบัติหรือแก้ปัญหา เป็นวิธีการที่เป็นวิทยาศาสตร์
ที่เชื่อถือได้ว่าจะสามารถแก้ปัญหา หรือช่วยให้งานบรรลุเป้าหมายได้
- พัฒนาเครื่องมือ-วัสดุอุปกรณ์ทางการศึกษา
วัสดุและเครื่องมือต่างๆที่ใช้ในการศึกษาหรือการเรียนการสอนปัจจุบันจะต้องมีการพัฒนาให้มีศักยภาพหรือขีดความสามารถในการทำงานให้สูงยิ่งขึ้นไป
- เทคโนโลยีสารสนเทศ
ทำให้สังคมเปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมมาเป็นสังคมสารสนเทศเทคโนโลยีสารสนเทศทำให้ระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนจากระบบแห่งชาติไปเป็นเศรษฐกิจโลก
ที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจของโลกผูกพันกับทุกประเทศ ความเชื่อมโยงของเครือข่ายสารสนเทศทำให้เกิดสังคมโลกาภิวัตน์
- เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้องค์กรมีลักษณะผูกพัน
มีการบังคับบัญชาแบบแนวราบมากขึ้น หน่วยธุรกิจมีขนาดเล็กลง
และเชื่อมโยงกันกับหน่วยธุรกิจอื่นเป็นเครือข่าย
นวัตกรรมทางการศึกษา
(Educational
Innovation) หมายถึง
การนำเอาสิ่งใหม่ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปของความคิดหรือการกระทำ
รวมทั้งสิ่งประดิษฐ์ก็ตามเข้ามาใช้ในระบบการศึกษา
เพื่อมุ่งหวังที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่มีอยู่เดิมให้ระบบการจัดการศึกษามี
ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ทำให้ผู้เรียนสามารถเกิดการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วเกิดแรงจูงใจในการเรียน
และช่วยให้ประหยัดเวลาในการเรียน เช่น การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน
การใช้วีดิทัศน์เชิงโต้ตอบ(Interactive Video) สื่อหลายมิติ
(Hypermedia) และอินเตอร์เน็ต เหล่านี้เป็นต้น
นวัตกรรมการศึกษา 5
ประเภทดังนี้
1. นวัตกรรมทางด้านหลักสูตร
2. นวัตกรรมการเรียนการสอน
3. นวัตกรรมสื่อการ
4. นวัตกรรมทางด้านการประเมินผล
5.
นวัตกรรมการบริหารจัดการ
เทคโนโลยี หมายถึง การประยุกต์นำเอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์
มาใช้ให้เกิดประโยชน์ และเป็นหัวใจของการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและผลิตภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพ
ลักษณะของเทคโนโลยี แบ่งออกเป็น 3
ลักษณะ
1.กระบวนการ
2.ผลผลิต
3.ผสมของกระบวนการและผลผลิต
ประโยชน์ของเทคโนโลยีทั่วไป
1
ลดแรงงานคนในการทำงานต่าง ๆ เช่น ควบคุมการผลิต และช่วยในการคำนวณ
2
เพิ่มความสะดวกสบายตั้งแต่ส่วนบุคคล จนถึงการคมนาคมและสื่อสารทั่วโลก
3
เป็นแหล่งความบันเทิง
4
ได้ผลผลิตที่มีมาตรฐาน เหมือนกันหมดทุดชิ้น
5
ลดต้นทุนการผลิต
6
ทำให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
7
ทำให้เกิดความเท่าเทียมกันในสังคม และ เกิดการกระจายโอกาศ
8
ทำให้เกิดสื่อการเรียนการสอนต่างๆมากขึ้น
9
ทำให้เกิดการจัดการทรัพยากรธรรมชาติได้ดียิ่งขึ้น
10
ทำให้เกิดระบบการป้องกันประเทศที่มีประสิทธิภามมากยิ่งขึ้น
11
ในกรณีของอินเตอร์เน็ต ผู้ใช้สามารถเลือกการผ่อนคลายได้ตามอิสระ
โทษของเทคโนโลยีทั่วไป
1
สิ้นเปลืองทรัพยากร เช่น น้ำมัน แก็ส และถ่านหิน จนกระทั้งน้ำ
2
เปลี่ยนสังคมชาวบ้าน ให้กลายเป็นวัตถุนิยม
3
ทำให้มนุษย์ขาดการออกกำลังกาย
4
ทำให้เกิดปัญหาการว่างงาน เพราะใช้แรงงานเครื่องจักรแทนแรงงานคน
5
ทำให้เสียเวลา ทั้งจากรายการไร้สาระในโทรทัศน์ จนกระทั่งนัก chat
6
หากใช้เว็บไซด์จำพวก Social Network จะทำให้ผู้ใช้มีโลกเป็นของตนเอง
ขาดการติดต่อกับผู้อื่น สารสนเทศ หมายถึง เนื้อหา ข้อมูล ข่าวสาร
ที่นำไปใช้ประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตได้
ลักษณะสารสนเทศที่ดีเนื้อหาความสมบูรณ์ครอบคลุมความสัมพันธ์กับเรื่อง
มีความถูกต้องความเชื่อถือได้การตรวจสอบได้ รูปแบบชัดเจน ระดับรายละเอียด
รูปแบบการนำเสนอ สื่อการนำเสนอ ความยืดหยุ่น ประหยัดเวลา ความรวดเร็วและทันใช้
การปรับปรุงให้ทันสมัย มีระยะเวลา กระบวนการ ความสามารถในการเข้าถึงการมีส่วนร่วม
การเชื่อมโยง
ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศในด้านที่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้านต่างๆ
1.
เทคโนโลยีสารสนเทศ
ทำให้สังคมเปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมมาเป็นสังคมสารสนเทศ
2.
เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้ระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนจากระบบแห่งชาติไปเป็นเศรษฐกิจโลก
ที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจของโลกผูกพันกับทุกประเทศ
3.
เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้องค์กรมีลักษณะผูกพัน
มีการบังคับบัญชาแบบแนวราบมากขึ้น หน่วยธุรกิจมีขนาดเล็กลง
และเชื่อมโยงกันกับหน่วยธุรกิจอื่นเป็นเครือข่าย
4.
เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเทคโนโลยีแบบสุนทรียสัมผัส
และสามารถตอบสนองตามความต้องการการใช้เทคโนโลยีในรูปแบบใหม่ที่เลือกได้เอง
5.
เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดสภาพทางการทำงานแบบทุกสถานที่และทุกเวลา
6.
เทคโนโลยีสารสนเทศก่อให้เกิดการวางแผนการดำเนินการระยะยาวขึ้น
อีกทั้งยังทำให้วิถีการตัดสินใจ หรือเลือกทางเลือกได้ละเอียดขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น